แพทย์แผนไทยกว่า 3 หมื่นคนทั่วประเทศ เสนอรัฐพร้อมให้ข้อมูลกระจายองค์ความรู้สู่ประชาชนเรื่องกัญชา

“รฎาวัญ” ห่วงกัญชาทำลายสมองเด็ก เยาวชน “แพทย์แผนไทย”แนะกิน”รางจืด”ขับพิษเสพกัญชาเกินขนาด ระบุปลดล็อคกัญชา กัญชง ออกจากพืชเสพติด แต่ยังไม่มีกฎหมายรองรับจนเกิดช่องว่างทางกฎหมาย แจงกระทรวงสาธารณสุขก็น่าจะรู้ล่วงหน้าแล้วว่า ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ…. จะเข้าสภาฯล่าช้ากว่าการประกาศปลดล็อคฯ ก็ควรแถลงชี้แจงข้อมูลสิ่งใดที่ทำได้ สิ่งใดทำไม่ได้ มีข้อควรระวังอย่างไรบ้าง ทำไมไม่ทำ…?

15 มิ.ย.65 / นางรฎาวัญ(ลดาวัลลิ์) วงศ์ศรีวงศ์  หัวหน้าพรรคเสมอภาค ในฐานะประธานองค์กรภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กล่าวว่า รู้สึกเป็นห่วงการใช้กัญชาไม่ถูกต้องในเด็กและเยาวชนจะทำลายสุขภาพส่งผลกระทบสมองและระบบประสาท จากนโยบายปลดล็อคกัญชา กัญชง ออกจากพืชเสพติดมีผลแล้วตั้งแต่ 9 มิถุนายน 2565 แต่ยังไม่มีกฎหมายมารองรับว่าจะปลูก จะผลิต จะใช้ จะขาย จะส่งออก จะนำเข้า อย่างไร การเกิดช่องว่างเช่นนี้กระทรวงสาธารณสุขก็น่าจะรู้ล่วงหน้าแล้วว่า ร่าง พ.ร.บ.กัญช่า กัญชง พ.ศ…. จะเข้าสภาฯล่าช้ากว่าการประกาศปลดล็อคฯ ก็ควรแถลงชี้แจงข้อมูลสิ่งใดที่ทำได้ สิ่งใดทำไม่ได้ มีข้อควรระวังอย่างไรบ้าง มีบุคลากรที่ผ่านการฝึกอบรมความรู้เรื่องกัญชาทั้งฝ่ายแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนปัจจุบัน ที่พร้อมทำหน้าที่ดูแลแนะนำประชาชนเพียงพอและให้บริการอย่างทั่วถึงหรือยัง

Advertisement    

ประเด็นสำคัญ ประชาชนที่ต้องการปลูกไว้ทำอาหารในครัวเรือนจะปลูกได้เลยหรือไม่ จะต้องขออนุญาตจากหน่วยงานใด และจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมรายละ 50,000 บาทหรือไม่ และควรชี้แจงให้ชัดเจนว่า ประชาชนรายย่อย จะได้รับสิทธิประโยชน์จากการปลูกกัญชาอย่างเสมอภาค เท่าเทียม ทั่วถึง และยุติธรรมกับกลุ่มทุนรายใหญ่หรือไม่

ด้าน ดร.พท.ภ.บัญชา สุวรรณธาดา รองประธานองค์กรภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กล่าวว่า การเปิดเสรีกัญชาในครั้งนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือประชาชนได้เข้าถึงพืชสมุนไพรกัญชาที่มีประโยชน์ทั้งต่อสุขภาพในเชิงป้องกันและรักษาโรค และในเชิงเศรษฐกิจอย่างเช่นการประกอบอาหารหรือเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆอันนี้ถือว่าเป็นประโยชน์และเป็นโอกาสของประเทศไทย  แต่ข้อที่น่าเป็นห่วงคือภาครัฐบาลยังไม่ได้ให้ข้อมูลที่ชัดเจนกับภาคประชาชนว่าโอกาสที่จะเกิดปัญหากับเยาวชนหรือประชาชนผู้ที่ยังไม่มีและยังไม่ทราบข้อมูลเป็นจำนวนมากนั้นถือว่ายังมีข้อสุ่มเสี่ยง

อย่างไรก็ตาม ภาครัฐควรจะรีบกระตุ้นกระจายข้อมูลองค์ความรู้ที่ถูกต้องโดยผ่านแพทย์แผนไทยกว่า 30,000 คนทั่วประเทศพร้อมที่จะให้ข้อมูล รวมถึงกระจายองค์ความรู้สู่ประชาชน เช่น กลุ่ม อสม. ให้เป็นกระบอกเสียงเพื่อกระจายข้อมูลองค์ความรู้ที่ชัดเจน และที่สำคัญกว่านั้นคือมีความน่าเป็นห่วงในภาคเยาวชน ซึ่งตามภูมิปัญญาดั้งเดิมนั้นในปฐมวัยหรือในกลุ่มอายุไม่เกิน 25 ปีไม่ควรจะใช้กัญชาในเชิงของการสูบโดยเด็ดขาด ซึ่งจะมีผลต่อระบบประสาทสมองของเยาวชนของชาติ อันนี้ก็อยากฝากให้รัฐบาลกำกับให้ดี และควรจะให้แพทย์ออกมาชี้แจงเรื่ององค์ความรู้การใช้ที่ถูกต้องเพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดภายในประเทศ

สำหรับข้อปฏิบัติในการรักษาอาการต่างๆจากการใช้กัญชามากเกินขนาด พท.ว.ระเด่น ตอสกุล ประธานคณะแพทย์แผนไทยช่วยชาติ กล่าวว่า หากคนที่เสพต่อเนื่องนานๆ ให้กินรางจืดอย่างต้มหรืออย่างเม็ดก็ได้ เดือนละ 2 – 3 วัน หากคนที่เคยเสพวันละ 2-3 ครั้ง ก็ให้ลดลงเหลือวันละ 1-2 ครั้ง จากนั้นเหลือวันละครั้ง และ 2 วันครั้งค่อยๆลดการเสพลง  ส่วนการใช้กัญชาเพื่อเสริมสร้างภูมิต้านทานโรค ให้ดื่มชาตรีผลา+ใบหรือรากกัญชา หากมีข้อสังสัย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่กลุ่มไลน์ “แพทย์แผนไทยช่วยชาติ” เรามีแพทย์แผนไทยหลายท่านพร้อมตอบข้อสงสัยต่างๆในกลุ่มไลน์ดังกล่าวนี้

จรัญ ชุ่มเงิน รายงาน