“สนธิรัตน์”เผย การหารือเรื่องนโยบายรัฐบาลของ 19 พรรคร่วมได้ข้อยุติแล้ว เตรียมเสนอนายกรัฐมนตรีต่อไป
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะทำงานประสานงานพรรคร่วม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมหารือเรื่องนโยบายกับพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 19 พรรรค ว่า ที่ประชุมพรรคร่วมได้พิจารณาร่างนโยบายรัฐบาลที่ได้หารือกันไปเมื่อวาน ซึ่งทุกพรรคได้ส่งนโยบายที่ต้องการขับเคลื่อนมา และวันนี้ได้นำมาปรับและดำเนินการจัดบรรจุเข้าสู่นโยบายรัฐบาล โดยวันนี้ถือเป็นข้อยุติในเรื่องของนโยบายพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเบื้องต้นมีความครอบคลุมทุกด้าน จะเหลือเพียงบางประเด็นที่จะต้องดำเนินการอีกเล็กน้อย ก่อนจะนำเสนอนายกรัฐมนตรีต่อไป
“นโยบายทั้งหมด มี 2 ส่วน คือ นโยบายในปีแรกถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องของปากท้อง การลดความเหลื่อมล้ำ เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนรอคอยอยู่ ส่วนนโยบาย 4 ปี จะต้องตอบสนองความยั่งยืนของประเทศในทุกมิติ ในส่วนนโยบายด้านการเกษตร เป็นนโยบายที่ในช่วงการหาเสียงส่วนใหญ่ได้พูดกันในเรื่องของมาตรการมากกว่า แต่เป้าหมายที่ตรงกันคือต้องยกระดับราคาพืชผลทางการเกษตร เพื่อให้เกษตรกรสามารถลืมตาอ้าปากได้ โดยจะต้องพิจารณาทั้งระยะสั้น และระยะยาว ซึ่งต่อจากนี้จะได้นำมาตรการต่างๆ ที่เคยหาเสียงมาหารือร่วมกันเพื่อปรับใช้อีกครั้ง โดยจะไม่ได้ยึดติดว่าต้องเป็นของพรรคพลังประชารัฐเป็นหลัก แต่ทุกพรรคที่เป็นรัฐบาลต้องร่วมกันหารือ เพราะวันนี้เป็นเรื่องของรัฐบาล ไม่ใช่เรื่องของพรรคใดพรรคหนึ่ง” นายสนธิรัตน์ กล่าว
ส่วนในประเด็นของการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องการให้เป็นนโยบายนั้น นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ยังมีรายละเอียดบางส่วนที่ต้องมีการหารือเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย ส่วนจะรับไว้ในนโยบายของรัฐบาลหรือไม่ ยังไม่ได้กำหนดเงื่อนไข แต่ต้องมาร่วมกันหารือกัน และคาดว่าจะเสร็จสิ้นเร็วๆ นี้ ยืนยันไม่ใช่เรื่องที่จะต้องให้นายกรัฐมนตรีเป็นคนต้องตัดสินใจ
“การจัดทำนโยบายต่างๆ จะต้องคำนึงถึงกรอบวงเงินงบประมาณ โดยจะต้องอยู่บนพื้นฐานของงบประมาณที่จะต้องจัดสรรด้วย ซึ่งในระหว่างที่จัดทำนโยบายได้มีการหารือกับสำนักงบประมาณ เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางของงบประมาณ แต่ขณะนี้ตนไม่สามารถตอบเป็นตัวเม็ดเงินได้ แต่ยืนยันยังคงอยู่ในกรอบของงบประมาณ” ประธานคณะทำงานประสานงานพรรคร่วม กล่าว
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า พรรคร่วมทุกพรรคเห็นตรงกันในเรื่องของนโยบายสวัสดิการแม่และเด็ก รวมถึงนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ400 บาท ที่ทุกพรรคเห็นตรงกันว่าควรจะต้องปรับให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชน ซึ่งในช่วงของการหาเสียง เป้าหมายค่าแรงขั้นต่ำของทุกพรรคก็ใกล้เคียงกัน ส่วนมาตรการจะเป็นอย่างไรเป็นเรื่องที่ต้องมาหารือกันอีกครั้ง ทั้งนี้ ไม่กังวลว่าในช่วงการแถลงนโยบายจะมีฝ่ายค้านหยิบยกบางเรื่องมาเป็นประเด็น เนื่องจากเชื่อว่าทุกคนต้องการเห็นประเทศชาติเดินไปข้างหน้า ซึ่งส่วนตัวยังมองเป็นทิศทางบวก ที่ทุกคนจะต้องช่วยกันทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้าให้ได้ โดยความคิดเห็นใดเป็นประโยชน์ก็จะรับมาพิจารณา ขออย่าเพิ่งไปมองในแง่ลบ