กระทรวงการคลัง โดยกรมธนารักษ์จัดพิธีมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ภายใต้โครงการธนารักษ์เอื้อราษฎร์ “สัญญาเช่าที่ดิน พลิกชีวิตประชาชน” โดยมีนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้เกียรติเป็นประธานพิธีมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ ณ บริเวณหมู่บ้านศรีคัคณางค์ ตำบลบึงชำอ้อ อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี

22พ.ค.2568/ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังมีเจตนารมณ์ในการบริหารจัดการที่ราชพัสดุให้เกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุด และตระหนักถึงนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ทำกินให้แก่ราษฎร จึงให้กรมธนารักษ์ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง ปกครอง ดูแล และบำรุงรักษาที่ราชพัสดุ ได้นำที่ราชพัสดุในความครอบครองของส่วนราชการต่าง ๆ ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ในราชการมาบริหารจัดการที่ราชพัสดุให้เกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุด และสนับสนุนนโยบายการดำเนินโครงการของรัฐบาลตามแนวทางการแก้ไขปัญหาความยากจนของชาติที่มุ่งแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ทำกินให้แก่ราษฎร
ทั้งนี้ ให้ประชาชนที่ถือครองที่ราชพัสดุอยู่ก่อนวันที่ 4 ตุลาคม 2546 และไม่โต้แย้งกรรมสิทธิ์ เช่าที่ราชพัสดุในอัตราผ่อนปรน ผ่านกลไกการจัดให้เช่าของกรมธนารักษ์ตามกฎหมายที่ราชพัสดุ ส่งผลให้ราษฎรที่ยินยอมเช่าที่ราชพัสดุภายใต้โครงการธนารักษ์เอื้อราษฎร์มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ทั้งด้านสาธารณูปโภค ระบบสาธารณูปการ และเข้าถึงบริการสาธารณะขั้นพื้นฐานของทางราชการ

อีกทั้งสร้างรายได้ สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งด้านสังคมให้กับราษฎร ในครั้งนี้กรมธนารักษ์ได้ดำเนินการมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ ได้แก่ แปลงหมายเลขทะเบียนที่ ปท.421 ตำบลบึงช้ำอ้อ อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี เพื่ออยู่อาศัย จำนวน 258 ราย (258 สัญญา) เนื้อที่ประมาณ 145 – 1 – 71 ไร่
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการธนารักษ์เอื้อราษฎร์ “สัญญาเช่าที่ดินพลิกชีวิตประชาชน” เป็นการขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาลเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินให้แก่ประชาชน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมเพิ่มคุณภาพชีวิตด้านที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกิน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนโดยรวม และรัฐบาลมีนโยบายในการดำเนินการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินให้แก่ประชาชนภายใต้โครงการ “ธนารักษ์เอื้อราษฎร์” อย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจให้แก่ท้องถิ่นได้มากขึ้น และยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้มีความยั่งยืนต่อไป
กัลฑภรณ์ สุขเย็น รายงาน

















