ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า สำนั กงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริ มการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ได้เปิดเผยว่า ตามที่รัฐมนตรีว่ าการกระทรวงการคลังได้มีคำสั่ งที่ 1364/2567 ลงวันที่ 4 กรกฎาคม 2567 ให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิ จประกันวินาศภัยของบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม 2567 และคณะกรรมการกำกับและส่งเสริ มการประกอบธุรกิจประกันภัย (คณะกรรมการ คปภ.) มีคำสั่งที่ 19/2567 ลงวันที่ 9 กรกฎาคม 2567 แต่งตั้งกองทุนประกันวินาศภั ยเป็นผู้ชำระบัญชี บริษัท สินมั่นคงประกันภัยฯ นั้น ภายหลังจากมีการแต่งตั้งกองทุ นประกันวินาศภัย เป็นผู้ชำระบัญชี บริษัท สินมั่นคงประกันภัยฯ ทางกองทุนฯ ได้ดำเนินการจดทะเบียนเลิ กประกอบกิจการและจดทะเบียนเป็ นผู้ชำระบัญชีของบริษัท สินมั่นคงประกันภัยฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีผลทำให้กิจการของบริษัทเลิกกั นนับแต่วันที่ถูกสั่งเพิ กถอนใบอนุญาต และไม่อาจประกอบกิจการเป็นผู้รั บประกันวินาศภัยได้อีก โดยสภาพนิติบุคคลของบริษัทยั งคงมีอยู่เพื่อประโยชน์แก่ การชำระบัญชีเท่านั้น ทั้งนี้ ผู้เอาประกันภัยที่กรมธรรม์ ของบริษัท สินมั่นคงประกันภัยฯ ยังคงมีความคุ้มครองอยู่ กรมธรรม์จะสิ้นสุดความคุ้มครอง เมื่อผู้เอาประกันภัยใช้สิทธิซื้ อกรมธรรม์ประกันภัยฉบับใหม่กั บบริษัทประกันภัยที่เข้าร่ วมโครงการช่วยเหลื อและบรรเทาผลกระทบต่อผู้ เอาประกันภัยที่ทำสัญญาไว้กั บบริษัท สินมั่นคงประกันภัยฯ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขเป็นไปตามที่ สมาคมประกันวินาศภัยไทยและสำนั กงาน คปภ. กำหนด หรือเป็นไปตามที่กองทุนประกันวิ นาศภัยในฐานะผู้ชำระบัญชี ประกาศกำหนด
สำนักงาน คปภ. ขอประชาสัมพันธ์ให้เจ้าหนี้ ของบริษัท สินมั่นคงประกันภัยฯ ได้แก่ เจ้าหนี้ซึ่งมีสิทธิได้รั บชำระหนี้ที่เกิดจากการเอาประกั นภัย เช่น ผู้เอาประกันภัย ผู้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกั นภัยหรือบุคคลภายนอกที่มีสิทธิ เรียกร้องตามมูลหนี้ที่เกิ ดจากการเอาประกันภัย รวมถึงทายาท ผู้รับโอนสิทธิเรียกร้องหรือรั บช่วงสิทธิมาจากบุคคลดังกล่าว และเจ้าหนี้อื่นทั่วไป เช่น หนี้ตามสัญญาจ้างทำของ สัญญาจ้างแรงงาน ดำเนินการยื่นคำทวงหนี้ต่อผู้ ชำระบัญชี สำหรับกรอบระยะเวลาการใช้สิทธิ ยื่นคำทวงหนี้และวิธีการยื่ นคำทวงหนี้นั้น ให้เจ้าหนี้ต้องดำเนินการยื่ นคำทวงหนี้ต่อผู้ชำระบัญชีผ่ านระบบคุ้มครองสิทธิเจ้าหนี้ ในกรณีที่บริษัทประกันวินาศภั ยถูกเพิกถอนใบอนุญาต (Online) ที่ https://rps-sev.gif.or.th โดยสามารถยื่นคำทวงหนี้ต่อผู้ ชำระบัญชีได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน 2567 (เริ่มเวลา 08.30 น.) ไปจนถึงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 (สิ้นสุดเวลา 16.30 น.)
ทั้งนี้ หากเจ้าหนี้ประสงค์จะได้รั บชำระหนี้จะต้องดำเนินการยื่ นคำทวงหนี้ตามวิธี การและระยะเวลาที่กำหนด กรณีที่เจ้าหนี้เคยยื่นคำขอรั บชำระหนี้ไว้ต่อกรมบังคับคดี ในชั้นกระบวนการฟื้นฟูกิ จการของบริษัท สินมั่นคงประกันภัย ฯ ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 เจ้าหนี้ก็ยังคงต้องดำเนินการยื่ นคำทวงหนี้ต่อผู้ชำระบัญชีอี กครั้ง เนื่องจากเป็นการดำเนิ นการตามกฎหมายคนละฉบับ/หรื อในกรณีที่เรียกร้องค่าสิ นไหมทดแทนไว้กับบริษัท สินมั่นคงประกันภัยฯ แล้ว แต่ยังไม่ได้รับชำระหนี้ ต้องดำเนินการยื่นคำทวงหนี้ต่ อผู้ชำระบัญชีอีกครั้งเช่นกัน
ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. ได้กำหนดมาตรการเพื่อช่วยเหลื อและอำนวยความสะดวกให้แก่ ประชาชนผู้เอาประกันภัยไว้ โดยได้เตรียมความพร้อมเจ้าหน้ าที่สายด่วน คปภ. 1186 อีกทั้งมีการเพิ่มช่องทางพิ เศษให้ประชาชนกดหมายเลข 8 เพื่อเข้าปรึกษากรณีบริษัท สินมั่นคงประกันภัยฯ โดยเฉพาะ รวมทั้งจัดทำระบบเสียงอัตโนมัติ ในส่วนของคำถามที่ ประชาชนสอบถามเข้ามาบ่อย ๆ เช่น เอกสารที่ต้องใช้ในการขอรับค่ าสินไหมทดแทน เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ ประชาชน และได้เพิ่มช่องทางการสื่อสารกั บประชาชนผ่าน Application LINE คปภ. รอบรู้ โดยจะมีการตอบคำถามในรูปแบบของ Infographic หรือ ประชาชนประสงค์จะสอบถามข้อมู ลโดยตรงจากเจ้าหน้าที่ก็ สามารถทำได้เช่นกัน
นอกจากนี้ มีการจัดทำข้อมูลเพื่อสื่ อสารประชาสัมพันธ์และทำความเข้ าใจกับประชาชน ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ตลอดจนมีการจัดตั้งศูนย์ให้ คำแนะนำและอำนวยความสะดวกในการคี ย์ข้อมูลขอรับชำระหนี้ผ่านสำนั กงาน คปภ. ภาค สำนักงาน คปภ. จังหวัด ทั่วประเทศ สำหรับการเพิกถอนใบอนุ ญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภั ยของบริษัท สินมั่นคงประกันภัยฯ เป็นปัญหาฐานะการเงินและการจั ดการภายในของบริษัทจึงจะไม่ส่ งผลกระทบต่อความมั่นคงทางการเงิ นหรือสภาพคล่องของบริษัทประกั นวินาศภัยอื่น หรือธุรกิจประกันภัยในภาพรวมแต่ อย่างใด
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่กองทุ นประกันวินาศภัย www.gif.or.th หรือสำนักงาน คปภ. www.oic.or.th หรือสายด่วน คปภ. 1186 หรือผ่านช่องทาง LINE ‘คปภ.รอบรู้ @oicconect’