“การศึกษา คือ รากฐานของการพัฒนาประเทศ ถือว่ามีความสำคัญมาก และรากฐานของการพั ฒนาประเทศจะเข้มแข็ง มั่นคงได้ ทุกภาคส่วนต้องเข้ามามีส่วนร่ วมในการพัฒนา” ดร.อนงค์ อมรรัตนเศรษฐ์ ผู้อำนวยการ โรงเรียนบ้านบุ (ประชารัฐพัฒนา) สะท้อนมุมมองต่อความสำคั ญของความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อยกระดับการพัฒนาการศึกษา ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดในการขั บเคลื่อนการยกระดับการศึ กษาของไทย ภายใต้ความมุ่งมั่นของมูลนิธิ สานอนาคตการศึกษา “คอนเน็กซ์ อีดี” (CONNEXT ED)

ดร.อนงค์ ผู้อำนวยการ รร.บ้านบุ กล่าวว่า โครงการยุวนวัตกร เป็นโครงการที่ตอบโจทย์เด็ กไทยยุคใหม่ ที่จะต้องมีทักษะ เข้าถึงเทคโนโลยี ซึ่งปัจจุบันนักเรียนมี ความสนใจในเรื่องดังกล่าวแต่ โรงเรียนยังขาดทรัพยากรและอุ ปกรณ์ ต้องขอขอบคุณซีพีเอฟและมูลนิธิ สานอนาคตการศึกษา เข้ามาสนับสนุนทำให้โรงเรียนมี การพัฒนาและมีการเปลี่ ยนแปลงไปในทางที่น่าพอใจ ทำให้นักเรียนมีทักษะด้ านเทคโนโลยี ก้าวทันต่อโลกศตวรรษที่ 21 และในอนาคตคาดหวังว่านวัตกรน้ อย มีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนด้ านเทคโนโลยี และชุมชนนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิ ตประจำวันและการประกอบอาชีพได้

” รู้สึกดีใจและขอขอบคุณซีพีเอฟที่ ให้การสนับสนุนงบประมาณ เพื่อใช้สำหรับเป็นสื่อการเรี ยนการสอน ทำให้เด็กๆ ได้รับความรู้เพิ่มเติมจากสื่ ออุปกรณ์ที่ได้รับการจั ดสรรงบประมาณให้ทางโรงเรียน รวมทั้งการจัดกิจกรรมอบรมต่างๆ นอกจากนี้ เด็กๆ ยังสามารถนำไปใช้ในการศึกษาต่ อในระดับที่สูงขึ้น เช่น การทำโครงการในระดับชั้น ปวช. ปวส. นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน” คุณครูผู้รับผิดชอบโครงการยุ วนวัตกร กล่าว
นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการฯ สะท้อนถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้ จากทักษะการ Coding สามารถนำความรู้และประสบการณ์ ไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันทั้ งที่โรงเรียนและที่บ้าน

ด้าน ด.ช.บุลฤทธิ์ หิลแก้ว หรือ น้องนิว อายุ 14 ปี กำลังศึกษาชั้น ม. 2 ที่มีโอกาสได้เรียนรู้ และฝึกเขียนบอร์ ดสมองกลในโครงการยุวนวัตกร และมีได้ฝึกทดลองทำโครงงานเครื่ องกั้นรถอัตโนมัติ หรือการใช้ IOT ในการเปิดปิดหลอดไฟ ซึ่งได้นำไปใช้ประโยชน์กับที่ บ้านด้วย ขอขอบคุณซีพี เอฟและโครงการคอนเน็กซ์ อีดี ที่มอบโอกาสให้ โรงเรียนของเรา ทำให้เราได้คิดค้นสิ่งใหม่ๆ และได้ความรู้ทางอิเล็คทรอนิคส์ ที่สามารถนำไปใช้ให้เกิ ดประโยชน์ต่อไปได้
ทั้งนี้่ ซีพีเอฟเป็น 1ใน 12 บริษัทเอกชนที่ร่วมก่อตั้งมูลนิ ธิสานอนาคตการศึกษา ซึ่งปัจจุบัน มีโรงเรียนภายใต้การดูแล 298 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ ชัยภูมิ และสระบุรี โดยในปี 2566 เน้นส่งเสริมการเรียนรู้ด้านวิ ชาการ วิชาชีพและเทคโนโลยี เพิ่มคุณภาพการเรียนการสอน และส่งเสริมการนำทักษะใหม่ ๆและเทคโนโลยีที่สอดคล้องกั บโลกในศตวรรษที่ 21 มาใช้ อาทิ การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในรู ปแบบโค้ด (Coding) การจัดการเรียนการสอนภายใต้ โครงการ Proactive teacher for active learning และโครงการ STEM Education เพื่อยกระดับผลการประเมินคุ ณภาพการศึกษาของโรงเรียนทั้ง 5 ด้าน คือ ด้านผู้เรียน ด้านการมีส่วนร่วม ด้านผู้สอนและผู้บริหารสถานศึ กษา ด้านหลักสูตรและการสอน ด้านโครงสร้างพื้นฐาน มุ่งสร้างเด็กดีและเด็กเก่ง ตามเป้าหมายของคอนเน็กซ์ อีดี .