‘บมจ. แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่ นเทคโนโลยี’ หรือ (AIT) รายงานผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2568 ทำรายได้จากงบเฉพาะกิจการ 1,856 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 156 ล้านบาท หนุนผลงานในงวด 9 เดือนแรกปี 2568 รายได้จากงบเฉพาะกิจการ 5,287 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 442 ล้านบาท ตุน Backlog แน่น 5,000 ล้านบาท พร้อมมองทิศทางตลาดไอทีไทยปี 2568 ยังคงเติบโต รับแรงหนุนจากกระแส Digital Transformation เตรียมพร้อมคว้าโอกาสและเดินหน้ าเข้าประมูลงานอย่างต่อเนื่อง มั่นใจผลงานปี 2568 รายได้บรรลุ 6,800 ล้านบาทตามเป้าหมาย
นางศศิเนตร พหลโยธิน รักษาการประธานคณะกรรมการบริ หารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่ นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT ผู้นำในธุรกิจรั บเหมาระบบสารสนเทศและการสื่อสาร อย่างครบวงจร เปิดเผยว่า สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2568 (กรกฎาคม-กันยายน) บริษัทฯ มีรายได้จากงบเฉพาะกิจการอยู่ที่ 1,856 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่ วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 1,926 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 156 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี ก่อนที่มีกำไรสุทธิ 152 ล้านบาท ด้านผลการดำเนินงานช่วง 9 เดือนแรกปี 2568 (มกราคม-กันยายน) บริษัทฯ มีรายได้จากงบเฉพาะกิจการ 5,287 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกั นของปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 5,478 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิที่ 442 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มี กำไรสุทธิ 423 ล้านบาท สะท้อนถึงการบริหารจัดการที่มี ประสิทธิภาพของธุรกิจ
ปัจจุบัน AIT มีมูลค่างานในมือ (Backlog) ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2568 อยู่ที่ประมาณ 5,000 ล้านบาท รวมถึงจำนวนมูลค่างานที่อยู่ ระหว่างรอคำสั่งซื้อจากลูกค้า (Waiting for P/O) อีกจำนวน 100 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นรากฐานที่มั่ นคงในการรับรู้รายได้และสนับสนุ นการเติบโตของธุรกิจ และคาดว่าจะเป็นส่วนสำคัญที่ จะช่วยสนับสนุนให้ผลการดำเนิ นงานบรรลุเป้าหมายรายได้ทั้งปี ที่ตั้งไว้ที่ 6,800 ล้านบาท
นางศศิเนตร กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ เตรียมพร้อมคว้าโอกาสจากอุ ตสาหกรรมเทคโนโลยี สารสนเทศในประเทศไทยที่ยังคงเติ บโต แม้จะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิ จโลกที่ชะลอตัว แต่ภาคธุรกิจยังคงมุ่งหน้าเปลี่ ยนผ่านทางดิจิทัล (Digital Transformation) โดยอ้างอิงข้อมูลจากสำนั กงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่ อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) คาดว่าเศรษฐกิจดิจิทั ลของไทยในปี 2568 จะเติบโตถึง 4.69 ล้านล้านบาท หรือเติบโต 6.2% โดยเฉพาะในกลุ่มเทคโนโลยีขั้นสู ง เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI), Data Center, Hybrid Cloud และ Cyber Security ซึ่งสอดคล้องกับความเชี่ ยวชาญของบริษัทฯ โดยปัจจัยเหล่านี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ส่งผลให้ AIT ซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจรั บเหมาระบบสารสนเทศและการสื่ อสารอย่างครบวงจร มีโอกาสในการรับงานเพิ่มขึ้น
“เราเตรียมเดินหน้าเข้าร่ วมประกวดราคางานที่เกี่ยวข้องกั บ Digital Transformation อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงานที่สอดคล้องกั บเมกะเทรนด์อย่าง Hybrid Cloud และ Cyber Security ซึ่งเป็นที่ต้องการสูงของทั้ งภาครัฐและเอกชน และด้วย Backlog ที่แข็งแกร่งและโอกาสในการเข้ าร่วมประกวดราคางาน จึงมองว่าผลการดำเนินงานตลอดปี 2568 มีโอกาสค่อนข้างสูงที่ จะบรรลุเป้าหมายรายได้ที่ตั้ งไว้จำนวน 6,800 ล้านบาท”
“สำหรับความคืบหน้าโครงการ “ป่าสักเพื่อคาร์บอนเครดิต” ล่าสุดได้รับการขึ้นทะเบียนเป็ นโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมั ครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (Standard T-VER) จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม โดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรื อนกระจก (องค์การมหาชน) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยโครงการดังกล่าวคาดว่ าจะสามารถลดและกักเก็บปริมาณก๊ าซเรือนกระจกได้ถึง 1,214 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เที ยบเท่าต่อปี (tCO₂eq/year) เราพร้อมดำเนินธุรกิจควบคู่กั บการดูแลสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการเติ บโตทางธุรกิจกับการอนุรักษ์ทรั พยากรธรรมชาติ อันจะนำไปสู่ความยั่งยื นในระยะยาว” นางศศิเนตร กล่าว

















