ส.กทอ.พาผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชน เยี่ยมชม บ. TEBP จ.ชลบุรี โรงงานผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 8 ต.ค.68 นายอัมรินทร์ วงษ์พันธุ์ รอง ผจก.สำนักงานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน หรือ ส.กทอ. นำคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชนศึกษาดูงาน และเยี่ยมชม บ.ไทยอีสเทิร์น ไบโอ พาวเวอร์ จำกัด(มหาชน) หรือ TEBP จ.ชลบุรี กรณีผลสำเร็จจากการนำน้ำเสียและกากของเสียอุตสาหกรรมไปสู่การผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพแบบครบวงจรอย่างยั่ง โดยมีนายก้องกิต โกกนุทาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บ.ไทยอีสเทิร์น ไบโอ พาวเวอร์ จำกัด(มหาชน)หรือ TEBP พร้อมเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ ครั้งนี้โครงการดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของแนวทางตามแผนพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก ที่ผลักดันให้เกิดการผลิตก๊าซชีวภาพ(Biogas)ในประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ตามแผนการส่งเสริมเทคโนโลยีก๊าซชีวภาพในช่วงปี 2551-2555 เพื่อจูงใจให้ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพและมีความพร้อมเร่งลงทุนจัดสร้างระบบผลิตก๊าซชีวภาพ

ทั้งนี้สำหรับ TEBP ถือเป็นหนึ่งในภาคอุตสาหกรรมที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการผลิตก๊าซชีวภาพในโรงงานอุตสาหกรรมช่วงปี 2551-2555 รวมทั้งสิ้น 10 โครงการ โดยได้รับเงินสนับสนุนรวม 84.77 ลบ.จากการเงินลงทุน 233 ลบ.หรือ 36% ของเงินลงทุนรวม ซึ่งโครงการฯ สามารถผลิตก๊าซชีวภาพได้ 12.83 ล้าน ลบ.ม./ปี ทดแทนค่าใช้จ่ายด้านพลังงานทั้งค่าไฟและ LPG รวม 95.32 ลบ./ปี ช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้ 10.625 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า/ปี

นายก้องกิต โกกนุทาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TEBP เปิดเผยว่า บริษัทฯ เริ่มต้นการพัฒนาพลังงานชีวภาพมาตั้งแต่ปี 2551 ลงทุนก่อสร้างระบบผลิตก๊าชชีวภาพ โดยการนำน้ำเสียและกากของเสียที่ออกจากโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบ โรงงานผลิตน้ำยางข้น และโรงงานผลิตยางแท่งของบริษัทในเครือ มาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตก๊าซชีวภาพ ซึ่งนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทนก๊าซปิโตรเลียมเหลว(LPG) ในกระบวนการอบยางแห่งของโรงงานยาง และนำไปผลิตไฟฟ้าใช้ภายในโรงงานและบริษัทในเครือ รวมถึงจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคด้วย

ทั้งนี้ในปัจจุบัน TEBP ได้ขยายกำลังการผลิตพัฒนา และต่อยอดสู่ธุรกิจพลังงานหมุนเวียนประเภทพลังงานชีวภาพและรับบริหารจัดการน้ำเสียและกากของเสียแบบครบวงจร ทั้งการผลิตก๊าซชีวภาพการผลิตไฟฟ้าจากก๊าชชีวภาพ และการบริหารจัดการน้ำเสียและกากของเสียจากภาคอุตสาหกรรม รวมถึงการผลิตวัสดุปรับปรุงดินจากกากตะกอนที่ออกจากบ่อหมักก๊าซชีวภาพ ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยลดปัญหาน้ำเสียและกากของเสียทีเกิดจากการผลิต แต่ยังตอบโจทย์การใช้พลังงานหมุนเวียนภายในองค์กร และยกระดับการใช้พลังงานสะอาดของประเทศ ซึ่งบริษัทสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกว่า 10,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า/ปี และล่าสุดยังได้รับการรับรองคาร์บอนเครดิตจากโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction Program: T-VER) ที่ได้รับการรับรองโดย องค์การบริการจัดการก๊าซเรือนกระจก(องค์การมหาชน)หรือ อบก.ประมาณ 53,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า/ปี….0

นิตยา ทุมมานนท์/ระยอง