วันที่ 22 กันยายน 2568 – สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้ าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) หรือ ITD เดินหน้าตอกย้ำบทบาท Think Tank ด้านการค้าและการพัฒนา ผ่านการสร้างองค์ความรู้และเสริ มศักยภาพด้านการเจรจาการทู ตเชิงพาณิชย์ ซึ่งถือเป็นหลักสำคั ญในการกำหนดยุทธศาสตร์การค้า การลงทุน และความร่วมมือระหว่างประเทศ ด้วยการจัดกิจกรรมการฝึกอบรมหลั กสูตรขั้นสูงเกี่ยวกับการทู ตเชิงพาณิชย์และการเจรจา การค้าระหว่างประเทศ รุ่นที่ 6 (Advanced Program on Commercial Diplomacy and International Trade Negotiations, Batch # 6) และการจัดงาน Trade Negotiators Club Networking Night 2025 ที่รวมตัวนักการค้าระดับสูง นักการทูต ผู้กำหนดนโยบาย ภาคธุรกิจ เอกชน นักวิชาการ และคณะทูตต่างประเทศกว่า 80 คน เพื่อสร้างเครือข่ายและแลกเปลี่ ยนมุมมองต่อทิศทางการค้าโลก ร่วมเจาะลึกแนวโน้มสำคัญด้ านเศรษฐกิจดิจิทัล มาตรฐานสิ่งแวดล้อม และผลกระทบจาก AI ที่กำลังเปลี่ยนกติกาการค้า เตรียมพร้อมประเทศไทยและอาเซี ยนให้เท่าทันโลกการค้าในอนาคต
นายสุภกิจ เจริญกุล ผู้อำนวยการสถาบันระหว่ างประเทศเพื่อการค้าและการพั ฒนา กล่าวว่า “ผู้เจรจา หรือ Negotiators มีบทบาทผลักดันสินค้าและบริ การของประเทศออกสู่ตลาดโลก สร้างรายได้และการจ้างงาน ทำให้ส่วนหนึ่งของการเติบโตของ GDP ขึ้นอยู่กับความสามารถของนั กการค้าโดยตรง และเปรียบได้กับด่านหน้ าของการเชื่อมโยงเศรษฐกิจไทยกั บเศรษฐกิจโลก รวมถึงต้องรักษาความสัมพันธ์ และสร้างความเข้าใจร่วมกันระ หว่างประเทศคู่ค้า เพื่อสร้างพันธมิตรทางเศรษฐกิ จที่ยั่งยืน โดยเฉพาะการเจรจาการค้าในปัจจุ บันที่มีความซับซ้อนมากขึ้น กรอบการเจรจาไม่ได้อยู่เพียงแค่ เรื่องกลไกภาษี ราคา หรือการเข้าสู่ตลาดเท่านั้น แต่ยังต้องเผชิญกับกฎกติ การการค้า การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ตลอดจนความกดดันจากสถานการณ์ภู มิรัฐศาสตร์ที่เกิดขึ้นทั่ วโลก ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ผู้ เจรจาของไทยจำเป็นต้องมีทั้ งความรู้ ความเข้าใจ และความสามารถในการเชื่อมโยงยุ ทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจเข้ากั บการพัฒนาอย่างยั่งยืน เวทีนี้จึงเป็นพื้นที่สำคั ญในการสร้างเครือข่ายและเพิ่ มพลังให้ผู้เจรจาไทยยืนหยั ดบนเวทีโลกได้อย่างมั่นใจ”
ด้าน นายมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ กรรมการสถาบัน ITD และประธานกรรมการหอการค้ านานาชาติ กล่าวว่า “เวทีนี้สะท้อนความร่วมมือเชิ งสร้างสรรค์ระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และนานาชาติ เพื่อขยายโอกาสทางการค้าและสร้ างเครือข่ายธุรกิจไทยกับตล าดโลก ความร่วมมือคือกุญแจที่จะทำให้ ประเทศไทยสามารถรับมือกับค วามท้าทายและเปลี่ยนมันให้ เป็นโอกาสได้จริง การเชื่อมโยงเครือข่ายนักเจรจา– นักการค้าในระดับโลก จะช่วยให้ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะธุรกิจใหม่ๆ ให้เข้าถึงข้อมูล ทรัพยากร และพันธมิตรทางธุรกิจที่ หลากหลาย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการก้าวสู่ ตลาดโลกในยุคที่การแข่งขันไม่ ได้วัดกันที่ราคาเพียงอย่ างเดียว แต่ต้องอาศัยความเข้าใจในกติ กาสากล มาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม และความยั่งยืนที่กำลังกลายเป็ นตัวชี้ขาดของอนาคตการค้าโลก”
ขณะที่ ฯพณฯ เกียรติ สิทธีอมร อดีตประธานผู้แทนการค้ าประเทศไทย ได้ร่วมกล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน Trade Negotiators Club Networking Night 2025 ว่า “โลกการค้าในศตวรรษนี้กำลังเผชิ ญความไม่แน่นอนในทุกมิติ ตั้งแต่วิกฤตการเงิน ผลกระทบจากโควิด สงครามการค้า ไปจนถึงสงครามจริง การทูตเชิงพาณิชย์ (Commercial Diplomacy) จึงต้องถูกนิยามใหม่ จากการเจรจาเพื่อผลประโยชน์ฝ่ ายเดียว ไปสู่การสร้างความไว้วางใจ ความร่วมมือ และผลประโยชน์ร่วมกัน เพื่อให้ประเทศและภาคธุรกิจยื นหยัดได้ รวมถึงผู้เจรจาต้องสร้างคุณค่ ากลยุทธ์ร่วม และพันธมิตรระยะยาวที่ยั่งยืน ความสำเร็จของการทูตเชิงพาณิชย์ วัดจากการที่ทุกฝ่ายรู้สึกได้ ประโยชน์ เพื่อวางรากฐานเศรษฐกิจที่มั่ นคงในอนาคต หัวใจของการทูตเชิงพาณิชย์ยุ คใหม่คือ ความยืดหยุ่น ความร่วมมือ นวัตกรรม และความยั่งยืน ซึ่งไม่เพียงทำให้ไทยสามารถปรั บตัวได้ทัน แต่ยังทำให้เรามีบทบาทนำในอาเซี ยนและเวทีโลกได้อย่างแท้จริง”
“การเจรจาไม่ใช่เพียงเครื่องมื อทางธุรกิจ แต่คือการวางตำแหน่ งประเทศไทยในห่วงโซ่คุณค่าโลก ผู้เจรจาไทยจึงต้องมีทั้งความรู้ ด้านกติกาสากล ความเข้าใจเชิงลึกด้านเศรษฐกิ จดิจิทัลและสิ่งแวดล้อม และทักษะการทูตเชิงสร้างสรรค์ เพื่อสร้างพันธมิ ตรระยะยาวและเปลี่ยนความท้ าทายโลกให้เป็นโอกาสที่จั บต้องได้และเปลี่ยนความท้ าทายที่กำลังถาโถมให้เป็นโ อกาสในการขับเคลื่อนเศรษฐก ิจไทยและภูมิภาคอย่างยั่งย ืน”นายสุภกิจ กล่าวสรุป
สำหรับข้อมูลข่าวสารและกิ จกรรมอื่น ๆ ของ สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้ าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) หรือ ITD สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.itd.or.th หรือช่องทาง https://www.facebook.com/itd. th

















