วันที่ 21 มิ.ย.64 ที่ห้องประชุมทองอินทรา โรงแรมชัยคณาธานี อ.เมืองพัทลุง นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผวจ.พัทลุง เป็นประธานในการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 (การประชุมปัจฉิมนิเทศโครงการ) โครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างท่าอากาศยานพัทลุง โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน สื่อมวลชน ฯลฯ เข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 100 คน ซึ่งทางด้านผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อม สถาปนิก ผู้จัดการโครงการ ได้แจ้งผลการศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างท่าอากาศยานพัทลุง โดยสรุปได้ว่าสิ่งที่ได้ดำเนินการไปแล้ว ประกอบด้วย การออกแบบ ผลกระทบ และประเด็นอื่นๆ ซึ่งสถานที่ก่อสร้างสนามบินอยู่ที่บริเวณศูนย์วิจัยข้าว ต.ควนมะพร้าว อ.เมืองพัทลุง โดยมีพื้นที่ดำเนินการ 8,880 ตารางเมตร มีทางวิ่ง(รันเวย์) ขนาด 45 x 2,500 เมตร ปริมาณผู้โดยสารในชั่วโมงเร่งด่วน 415 คน คิดความจุผู้โดยสารต่อเที่ยว 180 ที่นั่ง รวมผู้โดยสารในชั่วโมงเร่งด่วน 540 คน โดยจะใช้เงินดำเนินการ จำนวน 2,144 ล้านบาท
สำหรับแนวทางการออกแบบนั้นจะนำเอาหนังตะลุง มโนราห์ และยอยักษ์ มาใช้ในการออกแบบเบื้องต้นของอาคารผู้โดยสาร เพื่อสร้างอาคารที่ช่วยส่งเสริมเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ให้แก่จังหวัดพัทลุง อย่างไรก็ตามผู้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวยังมีความห่วงใยในการดำเนินการของสนามบินพัทลุงที่หลากหลาย อาทิ ผลกระทบจากการบินของฝูงนกน้ำนานาชนิด ด้านเสียง การสั่นสะเทือน สภาพแวดล้อม ปัญหาน้ำท่วม ปัญหาโลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลา ปัญหาผลกระทบต่อศูนย์วิจัยข้าวที่ตั้งขึ้นเป็นแห่งแรกของภาคใต้ ฯ ซึ่งทางกรมท่าอากาศยาน และบริษัทผู้สำรวจ ออกแบบ ได้ร่วมกันอธิบายว่าปัญหาดังกล่าวได้มีแนวทางการป้องกันปัญหาในด้านต่างๆไว้พร้อมแล้ว
ด้านนายฉัตรชัย อุสาหะ รอง ผวจ.พัทลุง ได้กล่าวในที่ประชุมโดยสรุปได้ว่า ชาวพัทลุงทุกฝ่ายต้องการที่จะเห็นการก่อสร้างสนามบินในครั้งนี้ แต่เชื่อว่าหลายฝ่ายไม่ว่าจะเป็นส่วนราชการ เอกชน ประชาชน อยากจะทราบถึงรายละเอียดว่าจะมีการก่อสร้างสนามบินกันเมื่อไหร่จะเสร็จในปีไหน เพื่อทุกฝ่ายจะได้เตรียมความพร้อมในด้านต่างๆรองรับก่อสร้างสนามบินในครั้งนี้ ตนไม่อยากให้ชาวพัทลุงต้องรอความหวังเหมือนพี่น้องชาวจังหวัดสตูล เพราะเมื่อครั้งที่ตนรับราชการใน จ.สตูลนั้น ก็มีการศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างสนามบินสตูลเช่นกัน แต่ขณะนี้เวลาผ่านไปเกือบ 1 ปีแล้ว ความคืบหน้าการก่อสร้างสนามบินสตูลก็ยังไม่คืบหน้าเลย
ทางด้านตัวแทนกรมท่าอากาศยาน กล่าวว่า ในวันนี้เป็นการสรุปผลการศึกษาด้านวิศวกรรม ความคุ้มค่าในเบื้องต้น หลังจาดนี้จะได้ส่งผลดังกล่าวไปยังกระทรวงคมนาคมเพื่อพิจารณา ซึ่งกระทรวงคมนาคมก็มีหน่วยงานกลั่นกรองในด้านขนส่งหลายหน่วยงาน อาทิ สำนักงานการบินพลเรือนที่จะเป็นผู้พิจารณาในการจัดตั้งสนามบิน หลังจากนั้นก็จะเสนอให้คณะรัฐมนตรีได้รับทราบ หากคณะรัฐมนตรีเห็นชอบก็จะมีการสำรวจ ออกแบบในขั้นละเอียดอีกครั้งหนึ่ง สิ่งที่ดำเนินการในขณะนี้เป็นเพียงการสำรวจในเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งการก่อสร้างสนามบินนั้นเป็นโครงการที่ใหญ่ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องให้คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาและเห็นชอบ เพื่อนำไปสู่การจัดสรรงบประมาณอีกครั้งหนึ่งทั้งในด้านค่าชดเชยที่ดิน การก่อสร้างสนามบิน ทั้งด้านสนามบิน อาคาร ซึ่งระยะทางการดำเนินงานตามขั้นตอนต่างๆจะต้องใช้เวลาประมาณนานพอสมควรอย่างเร็วที่สุดก็ประมาณ 8 ปี ในขณะที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้เห็นด้วยกับการก่อสร้างสนามบินในครั้งนี้ด้วยเสียงที่ท่วมท้น
สุธรรม คงเพชร จ.พัทลุง/รายงาน
