“โอ๊ค”โล่ง ศาลให้ประกัน 1 ล้าน ห้ามออกนอกประเทศ

ศาลให้ประกัน“พานทองแท้” 1 ล้านบาท ห้ามออกนอกประเทศ ฐานฟอกเงิน คดีปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทย นัดสอบคำให้การ 5 พ.ย.นี้

10 ต.ค.61 ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.นครไชยศรี พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 ได้นำตัวนายพานทองแท้ หรือโอ๊ค ชินวัตร อายุ 38 ปี บุตรชายคนโตของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มายื่นฟ้องเป็นจำเลย ในความผิดฐาน ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบคบกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 5 , 9 , 60 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2558 มาตรา 10 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และ 91 จากกรณีร่วมรับโอนเงินเป็นเช็คจำนวน 10 ล้านบาทเข้าบัญชี ซึ่งเงินนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการกระทำจากการทุจริตปล่อยกู้สินเชื่อระหว่างธนาคารกรุงไทยฯ กับเอกชนกลุ่มกฤษดามหานคร ที่มี นายวิชัย กฤษดาธานนท์ ผู้บริหารกฤษดามหานคร กับพวกและอดีตคณะผู้บริหารธนาคารกรุงไทย ตกเป็นจำเลยในคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองซึ่งศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วให้จำคุกกลุ่มนายวิชัยกับพวก โดยในส่วนของนายวิชัยเอง ก็ยังถูกอัยการ ยื่นฟ้องความผิดฟอกเงินการทุจริตปล่อยกู้ดังกล่าวต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบเช่นกันด้วย

โดยศาลอาญาคดีทุจริตฯ ได้ประทับรับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อท.245/2561 และนัดสอบคำให้การจำเลยในวันที่ 5 พ.ย.นี้ เวลา 10.00 น.

ทางด้านทนายความของนายพานทองแท้ ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 1 ล้านบาทขอปล่อยชั่วคราว ระหว่างการพิจารณาคดี ต่อมา ศาลพิจารณาคำร้องแล้วจึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยไป โดยตีราคา 1 ล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล ต่อมา นายพานทองแท้ ได้ขึ้นรถตู้เบนซ์สีน้ำตาล-ทอง กลับออกจากศาลทันทีโดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด

ส่วน นางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการส่วนตัวคุณหญิงพจมาน และนายวันชัย สามีของนางกาญจนาภา ผู้ต้องหาที่ 2 ที่ 3 ที่อัยการสั่งฟ้องรับเช็คโอนเงิน 26 ล้านบาทนั้น ในวันนี้ยังไม่มารายงานตัว อัยการก็แจ้งนัดให้มาฟังคำสั่งฟ้องพร้อมนำตัวไปฟ้องศาลในวันที่ 18 ต.ค.นี้ เวลา 10.00 น.

สำหรับคดีฟอกเงินที่อัยการ ได้ยื่นฟ้องนายวิชัย กฤษดาธานนท์ อายุ 79 ปี ผู้บริหารกฤษดามหานคร กับพวกรวม 6 คนต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 4 ก.ย.61 เป็นคดีหมายเลขดำ อท.214/2561 ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ฯ มาตรา 4 , 5 , 9 , 60 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และ 91 จากกรณีระหว่างวันที่ 11 ก.ย.46 –ธ.ค.47 เมื่อมีการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อของธ.กรุงไทยฯ ผู้เสียหายให้กับ บมจ.กฤษดามหานครและบริษัทในเครือโดยมิชอบแล้ว จำเลยกับพวกอีกหลายคนสมคบกันฟอกเงินที่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อโดยมิชอบ จำนวน 10,400,000,000 บาท (หนึ่งหมื่นสี่ร้อยล้านบาท) นั้น ศาลก็ได้นัดสอบคำให้การจำเลยไปแล้วเมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันกลุ่มนายวิชัย ผู้บริหารกฤษดามหานคร ก็ยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำฯ

ภาพจากเฟซบุ๊ค Samaboon Tienvitoonpanya