อว.สั่งการดูแล58นักศึกษา อู่ฮั่นกรณีศึกษาเร่งงานวิจัย

ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.)

อว.สั่งการดูแล 58 นักศึกษาไทยในอู่ฮั่นให้ดีที่สุด พร้อมเดินหน้าทำงานวิจัยเชิงรุกติดตามเชื้อไวรัสสร้างยารักษาโรคและวัคซีน มั่นใจไวรัสโคโรน่าไม่ระบาดในไทย ชี้สิ่งน่ากลัวกว่าไวรัสคือไวรัลในโลกโซเชียล หวั่นสร้างความตื่นตระหนกเกินจริง

ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.)เปิดเผยในที่ประชุมระดมสมองเพื่อนำองค์ความรู้ในมหาวิทยาลัยมาใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการระบาดของไวรัสโคโรน่า ว่า การประชุมระดมสมองในวันนี้ เป็นการรวบรวมแพทย์และอาจารย์ รวมทั้งนักวิจัย จากมหาวิทยาลัย สถาบันวิจัยในประเทศไทย กรมควบคุมโรค และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อนำข้อมูล องค์ความรู้ด้านการวิจัยทางการแพทย์มาใช้ในการป้องกัน แก้ไขปัญหาการระบาดของไวรัสโคโรน่า และโรคอุบัติใหม่อุบัติซ้ำที่อาจเกิดขึ้นในประเทศไทยได้อีกในอนาคต

อย่างไรก็ตาม อว. สามารถนำองค์ความรู้ดังกล่าว มาสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์ และเผยแพร่ให้ประชาชนทั่วไปเกิดความตระหนัก โดยไม่ตระหนกจนเกินความเป็นจริง และเตรียมพร้อมรับมือ ขณะเดียวกันสิ่งที่น่ากลัวกว่าไวรัสคือไวรัล เนื่องจากปัจจุบันพบว่าข้อมูลในโลกโซเชียล มีการปลุกกระแสลุกลามจนหน้ากลัวกว่าความเป็นจริง

ดร.สุวิทย์ กล่าวว่ายังพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อบูรณาการการป้องกันและแก้ไขปัญหาการระบาดของไวรัสโคโรน่า และโรคอุบัติใหม่อุบัติซ้ำในอนาคตต่อไป

นอกจากนี้ อว. ยืนยันให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในการจัดตั้งวอร์รูมที่กระทรวงสาธารณสุข พร้อมทั้งได้สั่งการให้เดินหน้าในการการวิจัยเชิงรุกเรื่องนี้ต่อไป ทั้งเรื่องของความรู้พื้นฐาน การติดตามเชื้อโรคกลายพันธ์ การวินิจฉัย ยารักษาโรค ไปจนถึงการสร้างวัคซีน เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาระยะยาว

สำหรับนักศึกษาไทยและคนไทยทุกคนที่อยู่ในประเทศจีน ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานกับกระทรวงต่างประเทศ โดยขอให้ทุกท่านมั่นใจว่ารัฐบาลไทยจะดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อดูแลความเป็นอยู่และความปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ซึ่งมีนักศึกษาไทยจำนวน 58 คน ใน 12 มหาวิทยาลัย โดยจากการรายงานล่าสุดจากนักศึกษาไทยในอู่ฮั่นแจ้งว่า มีการจัดตั้งกลุ่มสื่อสาร (WeChat) ของนักศึกษาไทยและคนไทยในอู่ฮั่น โดยมีเจ้าหน้าที่กงสุล และ สถานเอกอัครราชทูตอยู่ในกลุ่ม เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์ สถานที่ซื้ออาหาร โดยทุกคนยังมีอาหารและน้ำดื่มเพียงพอประมาณ 2 สัปดาห์ ทั้งนี้ บางมหาวิทยาลัยมีการจัดอาหาร เครื่องดื่มสมุนไพร และหน้ากากให้แก่นักศึกษา รวมทั้งมีมาตรการตรวจวัดอุณหภูมิเมื่อเข้าออกหอพัก และขอให้นักศึกษาไม่ออกจากหอพักหากไม่จำเป็น

นอกจากนี้ยังได้เตรียมแผนอพยพนักเรียนไทย หากได้รับอนุญาตจากทางการจีนก็จะสามารถทำการอพยพตามแผนได้ทันที

รายงานข้อมูลจาก สำนักปลัด กระทรวง อว. แจ้งว่ามีการตรวจสอบนักศึกษาจีนที่ศึกษาอยู่ในสถาบันอุดมศึกษาของไทย จำนวน 87 สถาบัน แบ่งเป็นภาครัฐ 52 สถาบันและเอกชน 35 สถาบัน รวมกว่า 11,738 คน ซึ่งเราได้มีการออกมาตรการต่างๆ รวมทั้งการยืดเวลาเปิดเทอมออกไป และออกมาตรการตามหลักสากลเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส

กัลฑภรณ์ สุขเย็น รายงาน