ชาวบ้านค้านสุดตัวห้ามสร้างเขื่อนเหมืองตะกั่ว เตรียมบุกขอคำตอบจาก “ลุงตู่”

จากกรณีกลุ่มชาวบ้านท้องที่หมู่ที่ 1 ต.หนองธง อ.ป่าบอน จ.พัทลุง ประมาณ 100 ภายใต้การนำของนายเดชา เหล็มหมาด อายุ 39 ปี ได้เดินทางมาคัดค้านการสร้างเขื่อนเหมืองตะกั่ว อ.ป่าบอน ของกรมชลประทาน ณ บริเวณหน้าสำนักงานโครงการชลประทานพัทลุง ต.ท่ามิหรำ ในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง จากนั้นได้เดินเท้ามายื่นหนังสือคัดค้านการสร้างเขื่อนเหมืองตะกั่ว อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต่อนายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผวจ.พัทลุง ผ่านไปยังนายกรัฐมนตรี พร้อมรวมตัวมาพักค้างคืนเพื่อขอรับคำตอบจาก ผวจ.พัทลุง ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดพัทลุงจนถึงวันที่ 21 สิงหาคม 2563 หากยังไม่ได้รับคำตอบกลุ่มชาวบ้านเหมือนตะกั่ว อ.ป่าบอน ก็จะเดินทางไปพบกับนายกรัฐมนตรี ณ ทำเนียบรัฐบาล ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 18 ส.ค.63 ผู้สื่อข่าว จ.พัทลุง รายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมากลุ่มตัวแทนชาวบ้าน ประมาณ 30 คน  ได้มานอนค้างคืนหน้าศาลากลางจังหวัดฯ พร้อมจัดหาอาหารมารับประทานกัน  ขณะที่ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งเดินทางไปกรีดยางในพื้นที่ เพื่อหารายได้ในการขับเคลื่อนการคัดค้านการสร้างเหมืองตะกั่วในครั้งนี้ และหลังจากเสร็จสิ้นการกรีดยางแล้วจึงเดินทางมาสมทบ ขณะเดียวกันกลุ่มชาวบ้านก็ได้นำภาพถ่ายของระบบนิเวศ และสภาพแวดล้อมของพื้นที่ที่จะนำมาสร้างเขื่อนเหมืองตะกั่ว อาทิ น้ำตก ธารน้ำ และพื้นที่ป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ให้ข้าราชการ ได้ชมด้วย  ขณะที่ ตร.สภ.เมืองพัทลุง เข้ามารักษาความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง

ช่วงเที่ยงวันเดียวกัน  นายประสิทธิ์พร สมุหเสนีโต นายอำเภอบางแก้ว และ นายกองตรีอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ นายอำเภอเขาชัยสน ซึ่งเดินทางมาติดต่อราชการ ณ ศาลากลางจังหวัดพัทลุง ก็ได้เดินทางมาพูดคุยกับกลุ่มชาวบ้านและรับฟังเหตุผลของการชุมนุมคัดค้านในการสร้างเขื่อนเหมืองตะกั่วด้วย โดยนายอำเภอทั้ง 2 คน ได้ขอให้การชุมนุมในครั้งนี้เป็นการชุมนุมแบบสันติ อย่าให้ความรุนแรงเกิดขึ้นในบ้านเมือง พร้อมกันนั้นทางด้านนายกองตรีอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ นายอำเภอเขาชัยสน ก็ได้มอบเงินสดจำนวนหนึ่งให้กับนายเดชา เหล็มหมาด อายุ 39 ปี ตัวแทนผู้ชุมนุมด้วย ในขณะที่นายวิรัตน์ รักษ์พันธ์ รอง ผวจ.พัทลุง ก็ได้เดินทางมาพูดคุยกับกลุ่มชาวบ้านที่เดินทางมาชุมนุมและพักค้างคืนบริเวณหน้าศาลากลางพัทลุงเช่นกัน

ด้านนายเดชาฯ กล่าวว่า การรายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมในเบื้องต้นของกรมชลประทานเป็นสิ่งที่น่าละอายที่สุด ที่ได้นำเอาการก่อสร้างเขื่อนกั้นห้วยท่าพล อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ มาเกี่ยวข้องกับเขื่อนเหมืองตะกั่วที่มีรายละเอียดแตกต่างกัน นอกจากนั้นยังมีการรายงานเท็จผลการศึกษาโครงการชลประทานในปัจจุบันว่า “ จากการรวบรวมข้อมูลโครงการชลประทานที่ก่อสร้างแล้วเสร็จในพื้นที่ อ.เมือง จ.พัทลุง พบว่า มีโครงการชลประทานขนาดกลาง 3 โครงการ ได้แก่ อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำแดง อ่างเก็บน้ำคลองเฉลียงลับและอ่างเก็บน้ำห้วยนา นอกจากนั้นยังมีโครงการชลประทานขนาดเล็ก ได้แก่ ฝาย จำนวน 10 แห่ง “ ซึ่งรายละเอียดดังกล่าวเป็นเรื่องของการก่อสร้างเขื่อนกั้นห้วยท่าพล อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์

อีกทั้งยังมีการรายงานที่ผิดเพี้ยนของข้อมูลการเกษตรกรรมและการเลี้ยงสัตว์ว่า “ พืชเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดพัทลุงได้แก่ ข้าวโพดเพื่อเลี้ยงสัตว์ ข้าว ถั่วเหลือง ถั่วเขียวผิวมัน ข้าวฟ่างเลี้ยงสัตว์ และพืชผักต่างๆ สำหรับพืชไร่ที่ปลูกมากที่สุด คือ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รองลงมาได้แก่ถั่วเขียวผิวมัน ข้างฟ่างเลี้ยงสัตว์ และงา นอกจากนี้ยังมีไม้ผลเศรษฐกิจที่สำคัญ คือ มะขามหวาน ส่วนพืชผักนั้น จังหวัดพัทลุงถือเป็นแหล่งปลูกพืชผักที่สำคัญจังหวัดหนึ่งในภาคเหนือ “ ซึ่งการรายงานข้อมูลในเบื้องต้นก็เป็นการรายงานไร้ข้อเท็จจริง ผิดเพี้ยน ก็ไม่ทราบว่าอธิบดีกรมชลประทานได้เห็นข้อมูลดังกล่าวแล้วยัง กลุ่มชาวบ้านจึงมั่นใจว่าการรายงานข้อมูลอื่นๆที่นำไปประกอบการพิจารณาในการสร้างเขื่อนดังกล่าวจึงน่าจะเป็นข้อมูลเท็จและบิดเบือนข้อเท็จจริง และเพื่อผลประโยชน์ของบุคคลบางกลุ่ม กลุ่มชาวบ้านจึงต้องออกมาคัดค้านดังกล่าว

นายเดชาฯ กล่าวอีกว่า การสร้างเขื่อนเหมืองตะกั่วในครั้งนี้ จะทำให้น้ำตกโตนสะตอ ในพื้นที่ท้องที่ ม.1 ต.หนองธง อ.ป่าบอน ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดพัทลุงจะถูกทำลายหมดไป และหากการชุมนุมคัดค้านในครั้งนี้ยังไม่ได้รับคำตอบจาก ผวจ.พัทลุง ตนและกลุ่มชาวบ้านจะเดินทางไปพบกับนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล และจะนอกพักค้างคืนที่ทำเนียบเหมือนกับการนอนพักค้างคืน ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดพัทลุง

ผู้สื่อข่าว จ.พัทลุง รายงานว่า การชุมนุมประท้วงของกลุ่มชาวบ้านในครั้งนี้นั้น ทางด้านพลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องมนตรี และ พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี เป็นอย่างมาก โดยองคมนตรีทั้ง 2 ท่าน และคณะ จะลงพื้นที่ติดตามและขับเคลื่อนโคงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในเขตพื้นที่จังหวัดพัทลุง ในวันที่ 28 สิงหาคม 2563 นี้

สุธรรม คงเพชร จ.พัทลุง/รายงาน